Categories
อาชญากรรม

“ผบก.ตม.1 นำทีม รวบ! เวียดนาม ลอบปลูกขายกัญชาขาย พบของกลางเพียบ!!!”

วันที่ 28 ม.ค.2568 เวลา พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผบก.ฯ รรท.ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ฯ ปรก. รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รอง ผกก.สืบสวนบก.ตม.1และสืบตม.1 ร่วมจับกุมผู้ต้องหาลักลอบปลูกกัญชาขาย สืบเนื่องจาก กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับการเบาะแสว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม มีพฤติการณ์ต้องสงสัย รวมตัวกันภายในบ้าน ลักษณะปกปิดการกระทำความผิดบางอย่าง และก่อความเดือดร้อนเรื่องกลิ่น เสียง ให้แก่ประชาชนในชุมชนโดยรอบบริเวณภายในซอยงามวงศ์วาน 32 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักลอบจัดตั้งสถานที่เพาะปลูกกัญชา เก็บของ เพื่อรอการจำหน่ายต่อไป จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์เลขที่ 55/83-85 ซอยงามวงศ์วาน 32 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวมีขนาด 3 คูหา จำนวน 4 ชั้น พบว่าที่บริเวณชั้น 1 ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บปุ๋ยและห้องพักของคนงาน สามารถนอนได้อย่างน้อย 6-7 คน ส่วนชั้น 2-4 ของอาคารพาณิชย์ พบว่ามีการดัดแปลงให้เป็นห้องที่มีสภาพสำหรับเพาะปลูก มีการติดตั้งอุปกรณ์เพาะปลูก อุปกรณ์สำหรับปรับสภาพอากาศ ติดแอร์กับพัดลม และให้น้ำให้แสง จากการตรวจค้นพบคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามMr.NGUYEN NGOC จากการสอบถามรับว่า มาทำงานดูแล เพาะปลูกกัญชาได้ประมาณ 4 เดือน ได้รับค่าจ้างประมาณเดือนละ 20,000 บาท จากนายจ้างชาวไทยชื่อนายต้น (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ผลการตรวจค้น พบ

1. ดอกกัญชา จำนวน 1 ถุง บริเวณชั้น 2 ห้องเล็ก

2. ต้นกัญชา

2.1 ต้นกัญชาที่ตัดช่อดอกแล้ว พบ บริเวณ ชั้น 2 จำนวน 108 ต้น

2.2 ต้นกัญชาที่ยังไม่ออกช่อดอก พบ – บริเวณชั้น 2 ห้องกลาง จำนวน 136 ต้น- บริเวณชั้น 2 ห้องเล็ก จำนวน 455 ต้น (ต้นกล้า)

2.3 ต้นกัญชาที่ยังไม่ออกช่อดอก พบ บริเวณชั้น 3 ห้องกลาง จำนวน 96 ต้น *

2.4 ต้นกัญชาที่ออกช่อดอกแล้ว จำนวน 134 ต้น พบบริเวณ ชั้น 4 ทำการแจ้งข้อกล่าวหา

1. “ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” พ.ร.ก.บริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ

2. “จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า (กัญชา) โดยไม่ได้รับใบอนุญาต พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ****และได้ทำการประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น และ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมทำการจับกุม ตรวจสอบไม่พบว่าอาคารหลังดังกล่าวขอใบอนุญาตปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ตัวนิติบุคคลผู้ครอบครองอาคารรวมทั้งแรงงานจะถูกดำเนินคดีฐานไม่มีใบอนุญาตแปรรูปและจัดจำหน่ายสำหรับการปลูกกัญชาที่มีพืชดอก โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีการส่งออกกัญชาแปรรูปไปยังต่างประเทศ ก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นผู้ประกอบการที่คิดจะเพาะปลูกกัญชา โดยเฉพาะต้องการดอกกัญชามาใช้แปรรูปกับจัดจำหน่าย ต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง รวมทั้งเป็นการควบคุมให้กัญชาที่เพาะปลูกขึ้นมานั้นจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจนกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *